โปสเตอร์หนังกับการลงทุน !?

ภาพยนตร์นั้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนชื่นชอบและหลงใหล เนื่องจากเป็นสื่อที่มอบความบันเทิง สาระ ความรู้ รวมถึงแง่คิดต่าง ๆ ในชีวิตให้แก่ผู้ชม เนื่องด้วยความหลงใหลในภาพยนตร์ของผู้คนทั่วโลก จึงทำให้มีการผลิตสิ่งของที่ระลึกมากมายจากภาพยนตร์ เพื่อให้แฟน ๆ ได้สะสมกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนได้รู้จักภาพยนตร์ก่อนที่จะได้รับชม นั่นคือ “โปสเตอร์ภาพยนตร์” ซึ่งเป็นการนำสื่อมาโฆษณาตัวภาพยนตร์ตามหน้าโรงภาพยนตร์ โดยมีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าหลักการในการลงทุนในโปสเตอร์หลัก ๆ คือ
“ชื่อเสียงและความนิยมของภาพยนตร์” ที่จะมีผลต่อราคาในอนาคตของโปสเตอร์ หากภาพยนตร์เรื่องนั้นมีเนื้อหาที่ดี ได้รับรางวัลการันตีมากมาย หรือความเก่า ความหายาก จะทำให้มีผลต่อราคาเช่นกัน ผู้ลงทุนต้องเข้าใจในภาพยนตร์นั้น และคาดการณ์ว่าภาพยนตร์ตัวนี้มีเนื้อหาที่ดี อาจมีการเลือกซื้อโปสเตอร์นั้นก่อนที่จะมีการประกาศรางวัล เปรียบเสมือนการเลือกจังหวะในการลงทุนที่ถูกต้อง เพราะหากในภายหลังภาพยนตร์เรื่องนั้นได้รับรางวัล ราคาของโปสเตอร์ก็จะสูงขึ้นตาม ซึ่งหมายถึงผลกำไรนั่นเอง  

แหล่งที่ซื้อขายของโปสเตอร์ :

ในปัจจุบันมักมีการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น eBay ซึ่งถือเป็นการกระจายสินค้าจากพ่อค้าสู่ผู้ลงทุนได้ง่ายที่สุดรวมถึงผู้ลงทุน ผู้สะสมยังสามารถเลือกหาโปสเตอร์ที่หายาก ๆ จากทั่วทั้ง
มุมโลกได้เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าราคาหลักร้อย โดยการเพิ่มมูลค่าด้วยการดูมูลค่าในตัวภาพยนตร์และคุณค่าในตัวโปสเตอร์มาเพิ่มราคาได้เช่นกัน และยังมีร้านขายของมือสองหลาย ๆ ร้านตามตลาดมือสองที่มีการขายโปสเตอร์มือสองมากมาย เช่น ตึกแดงจตุจักร, ลิโด้สยาม

คุณค่าและหลักการการลงทุนในโปสเตอร์:

  1. คุณค่าของภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์มีรางวัลการันตีหรือไม่ เนื้อหาเป็นที่ยอมรับหรือไม่
  2. คุณค่าของโปสเตอร์ เช่น นักออกแบบ, ปีที่ผลิตตรงกับปีที่ภาพยนตร์ฉายหรือไม่, ของแท้หรือไม่, ฉากที่อยู่ในโปสเตอร์ และอีกมากมาย
  3. คุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น ภาพยนตร์นี้มีอิทธิพลต่อยุคสมัยนั้น ๆ มากเพียงใด หรือภาพยนตร์มีที่มาต่าง ๆ เช่น ถูกแบนห้ามฉาย หรือมีสถานที่ประวัติศาสตร์อยู่ในภาพยนตร์
  4. ความหายาก เช่น ภาพยนตร์นี้อาจมีการฉายมานาน จึงทำให้การหาสินค้านี้ยากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นได้ หรือเป็นภาพยนตร์อินดี้ ที่มีการผลิตโปสเตอร์น้อย แต่ภาพยนตร์กลับมีเนื้อหาที่ถูกให้การยอมรับ
  5. ชนิดของโปสเตอร์ เช่น ชนิดกระดาษที่ใช้ เป็นใบโปสเตอร์ภาษาใด  เป็นแผ่นเดียวหรือ 2 แผ่นต่อกัน

โปสเตอร์ “everything everywhere all at once” ที่เป็นภาพยนตร์อินดี้ แต่สร้างประวัติศาสตร์ในวงการภาพยนตร์ โดยเป็นภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากที่สุดในโลก และกวาดรางวัล Oscar ไปถึง 7 สาขารางวัล ในงานประกาศรางวัล Oscar ปี 2023 โปสเตอร์ที่ถูกผลิตมา จึงมีราคาโดยรวมที่สูงมากขึ้นหลังการประกาศรางวัล

โปสเตอร์ “Batman The Dark Knight” ที่มี Heath Ledger แสดงในบทบาท Joker ซึ่งคุณค่าของภาพยนตร์คือ Christopher Nolan ผู้กำกับที่หลาย ๆ คนยกให้เป็น “เสด็จพ่อโนแลน” เนื่องจากโนแลน
เลือกที่จะไม่ใช้ Computer Graphic ใด ๆ ในภาพยนตร์ และภาพยนตร์ยังมากไปด้วยเสน่ห์หลายเรื่อง
แถมพ่วงไปกับปัจจัยที่สำคัญที่สุดของโปสเตอร์นี้ คือ ที่แสดงในบทบาท Joker ซึ่งมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมในบทบาทนี้ และ Heath Ledger ได้เสียชีวิตลงก่อนที่จะมีประกาศรางวัล Oscar ที่ได้รับรางวัล “นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม” ซึ่งน่าเสียดายที่ Heath Ledger ไม่ได้ขึ้นไปรับรางวัลด้วยตัวเอง ทั้งหมดจากปัจจัยข้างต้น
ทำให้โปสเตอร์นี้ ปัจจุบันมีความหายาก และคุณค่าในการซื้อขายสูงมาก บางร้านขายถึง 17 เหรียญสหรัฐ
เลยทีเดียว

อีกหนึ่งตัวอย่างของโปสเตอร์ที่มีราคาสูง และเป็นโปสเตอร์ที่น่าศึกษา คือ

โปสเตอร์ “Apocalypse Now” ชนิดใบภาษาไทย ซึ่งเป็นแบบ 1 Sheet 2 ใบต่อกัน

ในปัจจุบันโปสเตอร์ใบนี้มักจะเป็นที่ต้องการของนักสะสมผู้ลงทุนในต่างประเทศอย่างมาก เนื่องจากคุณค่าของภาพยนตร์ ที่ได้รับรางวัล Oscar มากมายและเนื้อหาที่สะท้อนความดิบเถื่อนของสงครามได้อย่างชัดเจน รวมถึงชื่อเสียงของผู้กำกับอย่าง “Marlon Brando” ที่เป็นผู้กำกับ The Godfather ภาพยนตร์ในตำนานอีกหนึ่งเรื่อง ราคาของโปสเตอร์นี้ในปัจจุบันแตะเกือบหลักครึ่งแสนบาท เนื่องจากเป็นใบที่เขียนภาษาไทย หายาก ต้องมีครบทั้ง 2 ใบ และมี “อาจารย์ทองดี ภานุมาศ” ผู้เป็นเหมือนปรมาจารย์ของการเขียนโปสเตอร์ไทย รวมถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์แนวสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาลอีกด้วย


ภาพยนตร์ไทยในยุคเฟื่องฟู ที่มีพระเอกอย่าง “มิตร ชัยบัญชา” ทำการแสดงในภาพยนตร์ “เพชรตัดเพชร” , “อินทรีทอง” และอีกมากมายกว่า 260 เรื่อง ก็เป็นที่น่าสะสม มีราคา และมีคุณค่าอย่างมากเช่นกัน เนื่องจาก มิตร ชัยบัญชา มีการแสดงภาพยนตร์ของไทยในยุค “ฟิล์ม 16 mm” อย่างมากมาย และเป็น
การแสดงที่คุณภาพอย่างมาก ก่อนจะเสียชีวิตขณะถ่ายทำภาพยนตร์ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ราคาของโปสเตอร์ไม่มีตลาดกลาง หรือราคากลาง ราคาจะขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อ ผู้ขาย ตามคุณค่าที่มีในโปสเตอร์นั้น ๆ และตามราคาที่ตกลงกัน แต่ถ้าเลือกลงทุน และมีความหลงใหลเข้าใจในโปสเตอร์จริง ๆ จะยิ่งทำให้ส่งต่อเพิ่มมูลค่าทางจิตใจ ทางประวัติศาสตร์ให้แก่ผู้ซื้อได้ด้วยเช่นกัน